การเจรจา FLEGT VPA เป็นการส่งเสริมการค้าไม้ที่ถูกต้องตามกฎหมายจึงเป็นการประกอบธุรกิจการค้าไม้ที่ถูกต้องและเป็นธรรมต่อผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เช่น เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้ปลูกไม้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบอื่นๆ สำหรับผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สามารถพูดได้ว่าทุกคนในประเทศและทั่วโลก

สำหรับคำถามนี้ จำเป็นจะต้องอธิบายโดยละเอียด เนื่องจาก FLEGT เป็นแนวทางที่สหภาพยุโรปกำหนดมาตรการขจัดการทำไม้ที่ผิดกฎหมาย โดยใช้การออกระเบียบเกี่ยวกับการค้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ บังคับผู้ประกอบการในสหภาพยุโรปให้รับผิดชอบหากนำเข้าไม้ที่มีความเสี่ยงว่าได้มาโดยผิดกฎหมาย ดังนั้น หลายท่านจึงเข้าใจผิดว่าเป็นการกีดกันการค้าไม้ แท้จริงแล้ว เป็นการกีดกันการค้าไม้ที่ผิดกฎหมาย ดังคำย่อของ FLEGT ที่ว่า Forest Law Enforcement, Governance and Trade

การดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการดำเนินงานเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการรับประกันความถูกต้องตามกฎหมายของไม้เพื่อรองรับ AEC และตอบสนอง EU FLEGT ซึ่งเป็นเชิงวิชาการ จึงไม่ถือเป็นการดำเนินการตามนโยบายทางการเมืองของทั้งสองฝ่าย

หยุดยั้งการทำไม้เถื่อนได้จริง เพราะเป็นการกีดกันไม้เถื่อนไม่ให้เข้าสู่ตลาด ไม่มีผู้ประกอบการรับซื้อไม้เถื่อน จึงทำให้ไม้เถื่อนไม่สามารถขายในตลาดได้ ผู้ทำไม้เถื่อนจึงต้องเลิกดำเนินการ เป็นไปตามหลักการทางเศรษฐศาสตร์เรื่องอุปสงค์อุปทาน ประกอบกับการส่งเสริมการทำไม้ที่ถูกกฎหมายสามารถทำรายได้ให้กับผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบอุตสาหกรรมไม้ตลอดสายการผลิต อีกทั้ง ยังส่งเสริมให้การดำเนินงานของภาครัฐมีความโปร่งใส เป็นธรรม ลดการคอร์รัปชัน ทำให้การค้าไม้ถูกกฎหมายสะดวกและได้รับกำไรมากกว่าการทำไม้เถื่อน ทำให้ผู้ที่คิดจะทำไม้เถื่อนเลิกล้มความตั้งใจ

เนื่องจากการเจรจา VPA เป็นการเจรจาเพื่อการค้าไม้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์จากการค้าไม้อย่างเป็นธรรม และป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบทางลบกับผู้ใช้สอยอื่นๆ ลดการทำไม้เถื่อนซึ่งมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และเกิดการพัฒนาเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศเก็บภาษีได้ตามกำหนดและนำไปพัฒนาประเทศ นับว่าเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน

มีน้อยเนื่องจากมีกฎหมายบังคับใช้และมีหน่วยงานคอยดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

เริ่มใช้งานแล้วโดยผู้ที่ใช้งานมีทั้งภาครัฐ เอกชน และผู้นำเข้า-ส่งออก

ปัจจุบันกรมป่าไม้ได้ประสานงานอย่างต่อเนื่องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น ตำรวจ ทหาร ศุลกากร และเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่น ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์ในการจัดการผู้กระทำความผิดดังกล่าว โดยกรมป่าไม้ได้มีนโยบายในการป้องกัน และปราบปรามผู้ลักลอบทำไม้เถื่อนอย่างเคร่งครัดดังนี้

ตรวจสอบ จับกุม
ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์
จัดตั้งเครือข่ายประชาชนเพื่อป้องกัน
ฝึกอบรม ให้ความรู้เรื่องผลกระทบจากการทำไม้เถื่อน
เพิ่มมาตรการทางด้านเศรษฐกิจจูงใจให้กับผู้ทำไม้ที่ถูกต้อง