European Parliament ลงมติให้นโยบายต่อต้านการลดลงของป่าเข้มงวดขึ้น

European Parliament ต้องการให้มาตรการต่อต้านการลดลงของป่าเข้มงวดขึ้น วันที่ 13 ก.ย. ณ เมือง Strasbourg เสียงส่วนใหญ่ใน European Parliament มีมติให้กฎระเบียบใหม่ของ EU ซึ่งกำหนดให้บริษัทตรวจทานข้อมูลสินค้าว่าไม่ได้มาจากการผลิตที่ทำลายป่า ขยายกลุ่มสินค้าที่ครอบคลุม

WWF ระบุว่าการบริโภคของ EU ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นำเข้ามีส่วนในการลดลงของป่าทั่วโลกถึง 16% ส่งผลให้ EU เป็นกลุ่มที่ทำลายป่าเขตร้อนมากที่สุดรองจากประเทศจีน เพื่อแก้ปัญหานี้ European Commission จึงเสนอร่างกฎระเบียบให้บริษัทต้องทำ duty of care หรือ due diligence เพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ที่นำมาขายในตลาด EU ไม่ได้มาจากการผลิตที่ทำให้เกิดการลดลงของป่า หรือ ทำให้ที่ดินป่าเสื่อมโทรม

ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมภายใต้ร่างกฎระเบียบ

ในร่างกฎระเบียบเสนอโดย European Commission กำหนดขอบเขตสินค้าที่ควบคุมไว้คือ ปศุสัตว์ โกโก้ กาแฟ น้ำมันปาล์ม ถั่วเหลือง และไม้ และผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น หนังสัตว์ ช็อกโกแลต เฟอร์นิเจอร์ และอื่นๆ

ตอนนี้ European Parliament เรียกร้องให้ขยายกลุ่มสินค้าไปยัง สุกร แกะ แพะ สัตว์ปีก ข้าวโพด ยางพารา ถ่าน และผลิตภัณฑ์กระดาษพิมพ์ และต้องการให้ขยายประเภทที่ดินป่าที่ควบคุมไปยังป่าประเภทอื่นเพิ่มจากที่ร่างกฎระเบียบระบุไว้ Saskia Bricmont จากพรรค Ecolo  อธิบายว่าการขยายประเภทที่ดินไปยังที่ป่าอื่น จะช่วยปกป้องพื้นที่ป่าที่ไม่ได้มีต้นไม้ชุกชุม ทั้งนี้ พรรค Green ก็ยังคงเสียดายที่กฎระเบียบไม่ได้ปกป้องระบบนิเวศอื่น นอกจากป่าด้วย

มากกว่านี้ยังมีการเรียกร้องจากสมาชิก European Parliament ให้มีกฎข้อบังคับต่อสถาบันการเงินด้วย เพื่อให้มั่นใจว่ากิจกรรมของสถาบันการเงินไม่เกี่ยวข้องกับการทำลายป่า Sara Matthieu จากพรรค Groen กล่าวว่า “พวกเราเห็นว่ากฎระเบียบไม่ควรมุ่งไปที่ผู้ผลิตเท่านั้น แต่ควรมุ่งไปที่สถาบันการเงินที่ทำให้การสูญเสียความหลากหลายทางชีวพันธุ์เกิดขึ้นได้ด้วย ถ้าพวกเราไม่เริ่มบังคับสถาบันการเงิน เท่ากับว่าพวกเราก็ไม่ได้เริ่มแตะต้องต้นตอใหญ่หนึ่งของปัญหา”

สมาชิก European Parliament ส่วนใหญ่มีมติให้กฎระเบียบเข้มงวดขึ้น โดยนับจำนวนเสียงได้ 453 ต่อ 57 อีก 127 งดออกเสียง อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้หมายความว่าการเจรจาต่อไประหว่าง European Commission และกลุ่มประเทศสมาชิก EU จะเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะฝ่ายประเทศสมาชิก EU ก็ตั้งจุดยืนของกลุ่มไว้แล้วเช่นกัน ซึ่งจุดยืนดังกล่าวได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่าง Greenpeace และ WWF ที่ประณามว่าจะทำให้ป่าจำนวนมากใน EU ไม่ได้รับการปกป้อง และทำให้การปฏิบัติที่ไม่เป็นมิตรต่อป่าดำเนินต่อไปได้

ด้าน European Commission ก็แสดงความกังวลต่อการขยายขอบเขตการควบคุม โดย Virginijus Sinkevicius จาก European Commission กล่าวว่า “การพัฒนาควรเป็นไปทีละขั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์กว่าการใส่ทุกอย่างลงไปจนเกินความสามารถของระบบ ทำให้เสี่ยงต่อการล้มเหลวของระบบทั้งหมด” ตอนนี้ Virginijus กำลังรอผลการวิเคราะห์ที่จะแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เสนอให้เพิ่มเข้ามา เป็นผลิตภัณฑ์ที่การบริโภคใน EU ส่งผลต่อการทำลายป่าเป็นจำนวนมากจริง

European Commission ยังเน้นย้ำเรื่องภาระที่จะเกิดต่อผู้ประกอบการด้วย โดย Christophe Hansen จากพรรค Luxembourg Christian Democrat ได้ยื่นเรื่องต่อ European Parliament เสนอให้มีการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจและเทคนิคกับเกษตรรายย่อย

สมาชิกสภา European Parliament ชาวเบลเยี่ยม Tom Vandenkdelaere (CD&V) เห็นว่าหนึ่งในประโยชน์ของกฎระเบียบใหม่นี้คือจะช่วยลดความเสียเปรียบทางการแข่งขันของผู้ประกอบการที่มีหนังสือรับรองอยู่แล้ว เช่น หนังสือรับรองการเพาะปลูกถั่วเหลืองที่มีความรับผิดชอบ

Marie Arena จากพรรค Socialist Party ประเทศเบลเยี่ยม สนับสนุนให้กฎระเบียบปกป้องสิทธิของชนพื้นเมืองและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย โดย Marie ชี้ว่าในรอบศตวรรษที่ผ่านมา มีรายงานการฆาตกรรมนักอนุรักษ์เกิดขึ้นกว่า 1,540 กรณี ส่วนมากเกิดในทวีปป่าอะแมซอนและประเทศอินโดนีเซีย

Source: (2022) European Parliament wants stricter policy against deforestation. The Brussels Times. Available at: https://www.brusselstimes.com/288890/european-parliament-votes-for-stricter-policy-against-deforestation (Accessed: October 28, 2022).

Comments are closed.

X