3 ทางเลือกในการรับรองไม้ที่ขึ้นในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน
เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจป่าไม้ของประเทศไทย กรมป่าไม้ได้แก้ไขมาตราที่ 7 แห่งพรบ.ป่าไม้อนุญาตให้สามารถทำไม้ทุกชนิดบนที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองตามกฎหมายที่ดินได้โดยเสรี (พระราชบัญญัติป่าไม้ พศ ๒๔๘๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม อ่านต่อ) จากนั้นกรมป่าไม้ได้ออกประกาศแนวทางการรับรองไม้ที่ขึ้นในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินให้ผู้ทำไม้นำไปใช้เพื่อรับรองว่าไม้ตนมาจากที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินจริง ทางของไม้ฉบับนี้จึงขอนำแนวทางการขึ้นทะเบียนทั้งสามแนวทางมาเผยแพร่ให้ผู้อ่านเลือกนำไปใช้ตามความเหมาะสม
1. ขึ้นทะเบียนสวนป่า
ขึ้นทะเบียนที่ดินเป็นสวนป่าตามพระราชบัญญัติสวนป่า พศ 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เมื่อทำการตัดฟันไม้หรือนำเคลื่อนไม้จะได้รับเอกสารหลักฐานเพื่อใช้กำกับควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้ (อ่านต่อ)
2. ทำหนังสือรับรองตนเอง
จัดทำหนังสือรับรองตนเองว่าไม้ที่นำเคลื่อนเป็นไม้ที่ได้มาจากที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินของตนโดยอาจจะให้กำนันผู้ใหญ่หรือผู้ใหญ่บ้านลงนามเป็นพยาน และในอนาคตกรมป่าไม้อาจทำการมอบหมายองค์กรเช่นสหกรณ์สวนป่าภาคเอกชนให้สามารถทำหน้าที่รับรองแหล่งที่มาของไม้แทนกรมป่าไม้* (อ่านต่อ)
3. ออกหนังสือรับรองไม้ตามมาตรา 18/1 และมาตรา 18/2
ยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้ออกหนังสือรับรองไม้เพื่อจำแนกแหล่งที่มาของไม้เพื่อการค้าหรือส่งออกตามมาตรา18/1และมาตรา18/2 (อ่านต่อ)
การนำไม้ไปรับรองง่ายนิดเดียวคะแล้วประโยชน์ที่ได้ก็มีมากมายด้วยเช่นไว้ใช้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงแก่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้และเสริมสร้างความมั่นใจของผู้ซื้อว่าไม้ที่ได้มาถูกต้องตามกฎหมายแน่นอน
หมายเหตุ* รูปแบบการรับรองตนเองยังอยู่ในระหว่างการหารือเพิ่มเติมต่อไปตามรูปแบบการใช้ประโยชน์
|