การประชุมครั้งที่ 2 วันที่ 19 ก.พ. 2564 มีความก้าวหน้าเกิดขึ้นมากมาย คณะทำงานจัดทำข้อตกลงฯ มุ่งเร่งรัดการหารือร่างภาคผนวก การแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ และการพัฒนาระบบของประเทศ เตรียมเข้าหารือกับฝ่ายอียู ในการเจรจา การประชุมผู้เชี่ยวชาญร่วม และการประชุมระดับเทคนิค กับฝ่ายอียูในปีนี้

มุ่งพัฒนาให้เกิดระบบการควบคุมห่วงโซ่อุปทานของไม้ไทยแบบดิจิทัลทั้งระบบ นายทนงศักดิ์ นนทภา ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการป่าไม้ เปิดตัว ระบบใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ดิจิตอล โดยระบบจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถออกใบเบิกทางฯ ได้แบบเบ็ดเสร็จในระบบออนไลน์ ตั้งแต่การยื่นเอกสาร จนถึงการรับรองโดยเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ระบบจะเปิดใช้ในวันที่ 1 มีนาคม 2563 นอกจากนั้น เมื่อระบบ RFD Single Window สมบูรณ์แล้ว ระบบใบเบิกทางฯดิจิตอล จะเชื่อมโยงกับจุดห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดภายในฐานข้อมูลร่วม ทำให้ห่วงโซ่อุปทานของไม้ไทยมีการควบคุมในทุกจุด

หลังจากการร่วมมืออย่างแข็งขันระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เป็นเวลา 2 ปี ในการประชุมนี้ คณะทำงานกลุ่มย่อยได้ส่งมอบ แนวทางการสำแดงความถูกต้องด้วยตนเองการตัดและนำเคลื่อนที่ไม้ที่ขึ้นในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน ฉบับสมบูรณ์ ให้กรมป่าไม้เพื่อออกประกาศใช้ต่อไป เมื่อประกาศแล้ว เจ้าของไม้สามารถรับรองความถูกต้องของไม้ตนได้ด้วยตนเอง เพื่อใช้ในการนำเคลื่อนไม้จากจุดตัดไม้ต่อไป เป็นการเสริมความเข็มแข็งของห่วงโซ่อุปทานไม้จากที่ดินกรรมสิทธิฯ

ตามที่ฝ่ายไทย และอียู ได้มีมติในการประชุมเจรจาครั้งที่ 3 ว่าฝ่ายไทยจะส่ง ร่าง แนวคิดการควบคุมการนำเข้าไม้ ให้อียู เพื่อจัด workshop ร่วมกัน คณะทำงานจัดทำข้อตกลงฯ ได้เห็นชอบร่างแนวคิด ซึ่งนำ กระบวนการ due diligence มาให้ผู้ประกอบการตรวจสอบความถูกต้องไม้ก่อนนำเข้า และระบุหน้าที่ของหน่วยงานรัฐในการอำนวยความสะดวกการควบคุมการนำเข้าไม้ ซึ่งเป็นจุดควบคุมสำคัญที่จะทำให้มั่นได้ว่าไม้ในห่วงโซ่อุปทานของไทย ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศไทย และของประเทศที่มา

นอกจากร่างแนวคิดการควบคุมการนำเข้าไม้แล้ว ร่างภาคผนวกระบบรับประกันความถูกต้องตามกฎหมายของไม้ไทย และการควบคุมห่วงโซ่อุปทานของไม้ไทย (THA-TLAS & SCC) ก็มีความก้าวหน้าเช่นกัน โดยคณะทำงานจัดทำข้อตกลงฯ ได้ร่วมพิจารณาร่างที่มีการแก้ไขหัวข้อ การควบคุมไม้ของกลาง บทบาทของหนังสือรับรองโดยองค์กรเอกชนอิสระ และการพัฒนาหน่วยงาน และระบบในการออกหนังสือรับรอง THA-TLAS/FLEGT โดยคณะทำงานจัดทำข้อตกลงฯ เห็นชอบให้ทำการปรับปรุงร่างเพิ่มเติม เพื่อนำส่งฝ่ายอียู ต่อไป

เป้าหมาย FLEGT-VPA ในเรื่องการแก้ไขกฎหมายประเทศ ให้มีความเป็นเหตุเป็นผล ทันสมัย สอดคล้อง และสร้างความเป็นธรรมให้ทุกภาคส่วน ก็มีความก้าวหน้าอย่างเป็นลำดับ โดยกรมป่าไม้ แจ้งว่าปัจจุบันรัฐบาลอยู่ระหว่างการหารือเพื่อลดภาษีอากรขาออกของไม้ และไม้แปรรูป กรมการค้าต่างประเทศได้แจ้งว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับกรมป่าไม้ เพื่อการพัฒนากฎระเบียบการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์

นายวิจารณ์ เสนสกุล ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมป่าไม้ ที่เป็นผู้ขับเคลื่อนสำคัญของกระบวนการ FLEGT VPAได้แจ้งว่าแผนแม่บทของกรมป่าไม้ ได้มีบรรจุเรื่อง การปรับปรุงนิยามโรงงานไม้แปรรูป การแก้ไขกฎหมายเลื่อยโซ่ยนต์ และการปรับปรุง พรบ.สวนป่า แผนงานของกรมป่าไม้นี้ เป็นการสนับสนุนการทำ และค้าไม้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และทำให้ธุรกิจภาคป่าไม้ เป็นภาคธุรกิจที่กระจายประโยชน์ให้กับทุกขนาดธุรกิจ